Skin Fasting เทรนด์พักหน้าแบบญี่ปุ่น – หยุดใช้สกินแคร์ชั่วคราว ดีจริงไหม?
👩 เทรนด์ใหม่สายผิวใสจากญี่ปุ่น กำลังถูกพูดถึงในวงการบิวตี้ทั่วโลก กับแนวคิดที่ฟังดูแปลกแต่มีเหตุผล: หยุดใช้สกินแคร์ทั้งหมดชั่วคราว เพื่อให้ผิวฟื้นตัวด้วยตัวเอง หรือที่เรียกว่า “Skin Fasting”
Skin Fasting คืออะไร?
“Skin Fasting” หรือ “การอดผิว”
คือ การเว้นการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
• เซรั่ม
• ครีม
• มอยเจอไรเซอร์
• บางคนถึงกับไม่ใช้คลีนเซอร์ด้วยซ้ำ!
แนวคิดนี้ถูกริเริ่มโดยแบรนด์ Mirai Clinical จากญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าผิวสามารถ ฟื้นฟูสมดุลตามธรรมชาติได้ด้วยตัวเอง เมื่อไม่มีสิ่งกระตุ้นหรือถูกรบกวนมากเกินไป
💢ข้อดีของการทำ Skin Fasting
• ช่วยให้ผิว ฟื้นตัวจากอาการแพ้ / ระคายเคือง ที่เกิดจากสกินแคร์
• ลดการ พึ่งพาส่วนผสมบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ กรดผลไม้ ฯลฯ
• กระตุ้นให้ผิว ผลิตน้ำมันธรรมชาติ ได้ดีขึ้น
• ประหยัดค่าใช้จ่ายและให้ผิวได้ “พักหายใจ”
💢ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนลอง
• คนที่มีผิวแห้งอาจรู้สึก ผิวตึง ลอก หรือระคายเคือง
• อาจเกิดอาการ Purging (ผิวพังชั่วคราว) ได้ในช่วงแรก
• ถ้าใช้ชีวิตในเมืองหรือแต่งหน้า การไม่ล้างหน้าอาจก่อให้เกิดสิว
• ไม่เหมาะกับคนที่มี ปัญหาผิวรุนแรง เช่น สิวอักเสบ, โรคผิวหนัง
👩ใครควรลอง และใครควรเลี่ยง?
เหมาะกับ ไม่เหมาะกับ
ผิวมัน/ผิวผสม คนที่มีอาการแพ้สกินแคร์บ่อย
ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย ผู้มีปัญหาสิวอักเสบ
ผู้มีปัญหาสิวอักเสบ ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์มาหนักต่อเนื่อง
คนที่อยู่ในพื้นที่มลภาวะสูง
วิธีทำ Skin Fasting แบบปลอดภัย
1. เริ่มจากลด ไม่ใช่หยุดทันที
เช่น จาก 5 ขั้นตอน → เหลือแค่คลีนเซอร์ + มอยส์เจอร์บางเบา
2. เว้นแค่ 2–3 วัน/สัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องเลิกใช้ทุกวัน
3. งดใช้สารกระตุ้น เช่น เรตินอล / กรดผลไม้ ชั่วคราว
4. ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายช่วยฟื้นผิวจากภายใน
5. สังเกตอาการตลอดเวลา หากผิวแย่ลง ให้หยุดทันที
สรุป: Skin Fasting ดีไหม?
ถ้าคุณเป็นสายบำรุงเยอะ ผิวเริ่มระคายเคืองง่าย หรือรู้สึกว่า “ผิวไม่สดชื่นแม้ใช้ครีมแพง” การพักหน้าอาจเป็นคำตอบค่ะ
แต่ถ้ามีปัญหาผิวรุนแรง หรืออยู่ในเมืองที่มีมลภาวะสูง ควรระวังและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลองทำ